ประวัติ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น
ชินโซ อาเบะ (Shinzo Abe)
นายชินโซ อาเบะ ประธานพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี)
เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 90 ของประเทศ โดยได้คะแนนสนับสนุนในสภาล่าง 339 เสียง
จากทั้งหมด 475 เสียง และในสภาสูง 136 เสียง จากทั้งหมด 240 เสียง
ส่งผลให้เขามีชัยเหนือนายอิชิโร โอซาวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างง่ายดาย
นายอาเบะ วัย 52 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดของญี่ปุ่น นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยอาเบะเพิ่งฉลองวันเกิดอายุย่างเข้าสู่ 52 ปีเมื่อ 21 ก.ย.
หรือคล้อยหลังแค่วันเดียวหลังจากได้รับความไว้วางใจให้จ่อคิวขึ้นเป็นผู้นำประเทศ
ภารกิจท้าทายที่เขาต้องเผชิญ คือ การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนและเกาหลีใต้
รวมถึงรักษาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซานานนับสิบปี
และรับมือกับปัญหาประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น
อาเบะและโคอิซูมิอดีตนายกรัฐมนตรี
เป็นที่รู้กันดีในพรรคแอลดีพีว่าอาเบะคือมือขวาของโคอิซูมิ
ซึ่งประกาศสละตำแหน่งผู้นำ “โดยสมัครใจ”
ได้อำลาตำแหน่งที่นั่งมานาน 5 ปี อย่างเรียบง่าย
เพื่อเปิดทางให้รุ่นน้องในพรรคได้ขึ้น โดยโคอิซูมิตัดสินใจเลือกอาเบะให้สืบทอดอำนาจ
ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบจากแกนนำส่วนใหญ่ของพรรคแอลดีพี
แต่ด้วยวัยเพียง 52 ปี ทำให้หลายฝ่ายมองว่าน้อยไปนิดหากเทียบกับผู้นำรุ่นก่อน ๆ
ที่มีอายุโดยเฉลี่ยมากกว่าอาเบะราว 1 รอบ และยังอ่อนด้อยประสบการณ์ทางการเมือง การบริหารประเทศอันที่จริงหากพลิกปูมประวัติดูจะเห็นว่า ชินโซ อาเบะ
มีสายเลือดการเมืองติดตัวมาตั้งแต่เกิด ปู่ คัง อาเบะ และพ่อ ชินทาโร่ อาเบะ เป็นนักการเมืองทั้งคู่
ชินทาโร่เป็นหัวหน้ามุ้งใหญ่ภายในพรรคแอลดีพี เคยดำรงตำแหน่งสำคัญของพรรคและรัฐมนตรีหลายกระทรวง รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศ (ปี 2525)
ตอนหลังแข่งชิงตำแหน่งประธานพรรคเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งนายกฯ
แต่เกิดเรื่องอื้อฉาวและล้มป่วย จนกระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อปี 2534
และแม่ของอาเบะคือโยโกะ คิจิ เป็นบุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรีโนบุสึเกะ คิจิ
ที่ถูกจับกุมฐานเป็นอาชญากรสงครามหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่ได้ตำแหน่งนายกฯ กลับคืนในเวลาต่อมา เรียกได้ว่าอาเบะคือทายาทของตระกูลนักการเมืองระดับสูงของประเทศทั้งฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่
อาคิเอะ อาเบะ (Akie Abe) ภรรยานายกรัฐมนตรี ชินโซ
สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของญี่ปุ่นปัจจุบัน
ลูกสาวประธานบริษัทผลิตลูกกวาดชื่อดังของญี่ปุ่น
สาวญี่ปุ่นนสมัยใหม่ผู้ฝ่าฝืนไลฟ์สไตล์สาวญี่ปุ่นดั้งเดิม
ที่ต้องอยู่บ้าน ทำงานบ้าน ออกมาหาเสียงช่วยสามีด้วยลีลามันหยด
เรียกคะแนนให้อาเบะไม่น้อย แถมยังทำให้อาเบะมีสายสัมพันธ์ที่
แขงแกร่งในโลกธุรกิจด้วย
ชินโซ อาเบะ เกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2497 ที่เมืองนากาโตะ
จบปริญญาตรีรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไซไกเมื่อปี 2520
และไปเรียนต่อวิชาการเมืองที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
เดือน เม.ย. ปี 2522 เริ่มทำงานกับบริษัทโกเบ สตีล ก่อนจะลาออกในปี 2525
แล้วโดดเข้าสู่วงการเมือง โดยเริ่มจากเป็นผู้ช่วยผู้ติดตามพ่อ
ซึ่งปีนั้นเริ่มรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
หลังจากพ่อเสียชีวิตลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ลงเขต 1 ของจังหวัดยามากูจิเมื่อปี 2536
ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งทุกระดับของจังหวัด
จากนั้นก็ไต่เต้าตำแหน่งในพรรคเรื่อยมาจนถึง รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ในรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีโยชิโร โนริ เมื่อปี 2543 และต่อมาถึงรัฐบาลของโคอิซูมิ
31 ต.ค. 2548 ขึ้นเป็น เลขาธิการ ครม. เต็มตัว ในคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 5 ของโคอิซูมิ
โดยนั่งเก้าอี้ต่อจากนายฮิโรยูกิ โฮซาดะ อาเบะ ผูกสัมพันธ์กับบรรดานักการเมืองสายอนุรักษนิยม
ภายในพรรคแอลดีพี เป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มวิพากษ์ตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
ซึ่งกลุ่มมองว่าตำหนิตนเองมากเกินไป และไม่เชื่อว่าทหารญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
“บีบบังคับ” ผู้หญิงหลายประเทศในเอเชียให้เป็นทาสบำเรอกาม
อาเบะสังกัดมุ้งหรือกลุ่มโมริในพรรคแอลดีพี ปัจจุบันมีอดีตนายกฯ โยชิโร โนริ เป็นหัวหน้ากลุ่ม
ก่อนหน้านี้โคอิซูมิก็เคยสังกัดกลุ่มโมริเช่นกัน แต่ตอนหลังลาออก
อันนี้เป็นธรรมเนียมของแอลดีพีเมื่อได้ตำแหน่งสูงในพรรค
ล่าสุดกลุ่มโมริมี ส.ส. ในสังกัด 60 คน และ ส.ว. 26 คน
ผลงานที่ทำให้ชื่อเสียงอาเบะโด่งดัง เห็นจะเป็น
การลองของท้า ทายคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงสุดของประเทศ ปี 2545 อาเบะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลญี่ปุ่นแทนญาติชาวญี่ปุ่น
ที่ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวไป ปีนั้นอาเบะเดินทางติดตามโคอิซูมิไปกรุงเปียงยางเพื่อพบปะกับนายคิม จอง-อิลผู้นำสูงสุดของโสมแดงด้วย อาเบะร่วมกดดันจนทางการเกาหลีเหนือต้องยอมให้พลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไป 5 คน เดินทางกลับมาเยี่ยมญาติพี่น้องที่ญี่ปุ่นในช่วงสั้น ๆ
และอาเบะก็จัดการไม่ให้ชาวญี่ปุ่นทั้งห้าคนกลับไปยังเกาหลีเหนือตามแผนที่วางไว้
เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮาสะใจชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ
ข้อมูลจาก www.dailynews.co.th 24 กันยายน 2549
และกรุงเทพธุรกิจ 01 พฤศจิกายน 2549
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น